RakDok Floral Destination (รักดอก)
The Hidden Picnics in the Hidden Floral Campsite
ยกสวนดอกไม้มาไว้ที่กรุงเทพ ไม่ต้องบินไปถึงเชียงใหม่ก็มีรูปสวยๆได้? ที่งาน ?????? ?????? ??????????? | ??? ??????
ค่าเข้าแค่ 150.- เท่านั้น
เอาใจคนกรุงเทพกับนิทรรศการดอกไม้ จาก รักดอก RakDok มาเอาใจชาว Flower Wanderlusters นักเดินทางที่มีไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ที่มีมุมมองแปลกใหม่ มาเปิดประสบการณ์ “เนรมิตป่าต้นยูคาลิปตัส ให้กลายมาเป็นป่าดอกไม้สไตล์แคมป์ปิ้ง” โดยงานนี้บอกเลยว่าคุ้มค่ามากเพราะไม่ต้องตีตั๋วไปไกลถึงเชียงใหม่ก็มีรูปสวนดอกไม้ได้ง่ายๆ
งานจัดเป็นรูปแบบ Pop Up Floral Recreation (สร้างที่ท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์ขึ้นชั่วคราว) โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ Rainforest Thailand
ภายในงานแบ่งเป็น 3 โซนหลัก
1. The Gathering
2. The Scenery
3. The Trial
1. The Gathering ☀️
โซนแรก เป็นจุดต้อนรับทุกคน ไฮไลท์ของโซนนี้คือ Sun Moon (อาทิตย์ทรงกลด) ที่จำลองการก่อไฟ และตกแต่งไปด้วยดอกไม้โทนสีแดงเบอกันดี้ จะมีจุดถ่ายรูปอยู่ทั้งหมด 4 จุด บอกเลยว่ามีความน่ารัก อบอุ่นมาก แถมยังมีร้านค้าต่างๆ ทั้งเครื่องดื่ม ของกิน และของที่ระลึกด้วยน้า
Crossing The Border (The Entrane Gate l ประตูทางเข้า)
ประตูทางเข้าออกแบบให้เป็นเต็นท์ทรงปิระมิด ที่จะพานักท่องเที่ยวทุกคน เข้าไปโลกอีกใบที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเป็นที่พักใจไปกับภาพต่างๆ
Sun Moon (อาทิตย์ทรงกลด)
บริเวณนี้เป็นเหมือนจุดต้อนรับสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน บริเวณนี้จะเป็นการก่อกองไฟไว้ล้อมรอบ และมีควันแดงสีเบอกันดี้ลอยคลุ้ง โอบล้อมด้วยวงกลมซ้อนกันดั่งอาทิตย์ทรงกลด ทำให้จุดนี้สัมผัสได้ถึงความไออุ่น
ที่นั่งเล่นเป็นชั้นๆที่สร้างจากไม้พาเลท เปรียบเสมือนบรรยากาศเชิงเขาที่มีดอกไม้ป่าหลายชนิด เหมาะกับการนั่งเล่น นั่งรบลมชิวๆในแบบ outdoor
เป็นมุมจำลองการแช่น้ำเพื่อพักผ่อนจากการเดินทาง เป็นอ่างจากุชชี่ริมน้ำที่มีฟองจากดอกไม้ฟุ้งไปทั่วอ่าง ได้ผ่อนคลายอยู่ใต้และชื่นชมดอกไม้ภายใต้แสงจันทร์ทรงกลด
โซนนี้เป็นวิวธรรมชาติที่สวยสะพรึงมาก โดยจะมีจุดถ่ายภาพหลักอยู่ 6 จุด ไฮไลท์ของโซนนี้ คือ Indigo Mount (ภูเขาสีคราม) ที่มีความงดงามอลังการ ทำให้รู้สึกหลงใหลไปกับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้า
Lavender Touch (สัมผัสลาเวนเดอร์)
นั่งปิคนิคที่สวนแห่งความสุขที่ไร้ขอบเขตแห่งนี้ เหมือนได้จินตนการเข้าไปสู่โลกของความฝัน
อากาศร้อนๆก็สามารถทำให้ดูเย็นขึ้นได้ด้วยโทนสีดอกไม้ เมื่อได้ลองมาสัมผัสกับภูเขาสีครามแห่งนี้แล้วจะรู้สึกว่าเหมือนอยู่เมืองนอกยังไงยั้งงั้นเลย
Wild Wind (สายลมในผืนป่า)
เป็นฉากที่คิดว่าสาวๆหลายคนน่าจะเคยเห็นและยังตราตึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ ฉากนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก งานแต่งงานในภาพยนตร์ Vampire Twilight รักดอกจึงได้เนรมิตทางเดินบริเวณนี้ให้ความฝันสาวๆกลายเป็นความจริง
Do Not Disturb (อย่ารบกวน)
เป็นการเซอร์ไพรส์คนรักด้วยดอกไม้เต็มเต็นท์ที่อยู่ใจกลางป่า ซึ่งผู้รับคงปลื้ม ปิติ และจดจำไปตลอด ครั้งนี้รักดอกจึงทำให้ความคิดถึงเป็นความสุขที่ติดตามไปตลอดชีวิต จึงจัดดอกไม้ไว้เต็มเต็นท์ เพื่อเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ที่หลงมาเยือน
หลีกหนีสายตาทุกคู่บนโลก มาหาที่สงบและจดจ่อกับธรรชาติ อย่าง นก แมลง พร้อมแช่อ่างน้ำในป่าโปร่งที่เหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน
Stardust Bath (อาบละอองดาว)
ชวนมาแช่น้ำในอ่างน้ำวินเทจ อยู่ท่ามกลางป่าไม้ไร้ใบในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
3. The Trial ?
โซนนี้เป็นเรื่องราวการเดินทางของธรรมชาติ บางครั้งการหยุดเพื่อดื่มด่ำกับบรรยายกาศ ก็เหมือนกับการนั่งดื่มไวน์ชั้นเลิศอย่างอิสระภาพ โซนนี้จะเป็นดอกไม้สีแดง ส้ม เหลือง โซนนี้จะมีจุดถ่ายภาพหลักอยู่ 5 จุด
Floral Leaves (ดอกไม้ที่ไม่ใช่ดอกไม้)
“ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนตัวเองเป็นดอกไม้” ก่อนใบไม้จะร่วง มันจะเปลี่ยนตัวเองเป็นสีเหลือง ส้ม แดง น้ำตาล ม่วง แล้วแต่สภาพอากาศและสายพันธุ์ เปรียบต้นไม้ออกดอกสีเดียวกันสะพรั่งไปทั้งต้น นี้คงเป็นเส้นทางในฝันของใครต่อใครอีกหลายคน
บางครั้งการเดินป่าต้องมีการปีนป่ายบ้าง ทำให้มันจึงเป็นเสน่ห์ของการเที่ยว จุดนี้เป็นจุดเล็ก ๆที่บอกเราว่าระหว่างทางอาจมีช้าลงบ้าง แต่มันกลับงดงามอย่างคิดไม่ถึง
ลองหาเวลาให้กับตัวเอง แล้วปล่อยให้เวลาล่องลอยไปตามลำธาร เป็นเหมือนความอิสระของจิตใจอีกหนึ่งรูปแบบ ที่ทดสอบเราว่า เรือลำนี้จะพาใจของเราลอยไปได้ไกลขนาดไหน
การเดินทางจะมีความหมายขึ้นเมื่อได้เดินทางไปกับมิตรภาพ การใช้เวลาอยู่กับเพื่อนสนิทและครอบครัว คือการกระชับความสัมพันธ์ให้แข็งแรงขึ้น ได้ใช้เวลาและค้นพบสิ่งดีๆด้วยกัน เต้นท์สามเต้นท์ แทนครอบครัว แทนเพื่อน แทนสังคม ที่เราอยากจะอยู่ด้วย
เพราะการเดินทางทำให้เราได้ค้นพบบางอย่างในชีวิต และนี่เป็นอีกโลกที่รอการมาเยือน ให้ทุกคนมาดื่มด่ำดั่งจิบไวน์ชั้นเลิศหรือน้ำองุ่นแดงชั้นดี เพราะนี่ไม่ใช่จุดสุดท้ายของการเดินทาง แต่เป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้น ที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะเดินทางต่อครั้งแล้วครั้งเล่า
*แต่ละจุดต้องต่อคิว และจับเวลาถ่ายรูป คนละ 2 นาที เตรียมหน้า ผม ท่าโพสต์กันไปดีๆน้า
ฝากกดไลค์ กดแชร์ Facebook Post กันด้วยนะคะ
? RakDok Floral Destination l Hidden
เวลาเปิด – ปิด / (Open and Close Time) :
วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี (Mon – Thu) : 09.00 – 17.00 น.
วันศุกร์ – วันอาทิตย์ (Fri – Sun) : 06.30 – 17.00 น.
วันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (Holiday) : 06.30 – 17.00 น.
โทร : 06-1899-7893
ราคาบัตร : ผู้ใหญ่ 150.- บาท ,เด็ก 100.- บาท (เด็กสูงไม่เกิน 110 ซ.ม.)
facebook : RakDokChannel
ที่จอดรถ : มี
**หมายเหตุ** บัตรเข้าชมงานเป็นแบบ One Day Pass ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
– เนื่องจากเป็นนิทรรศการดอกไม้ระยะยาว การชมดอกไม้แต่ละครั้งอาจมีความแต่ต่างกันออกไป ตามสภาพ และชนิดของดอกไม้ ทีมงานจะเปลี่ยนดอกไม้ตามความเหมาะเมื่อต้องซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายหรือร่วงโรย
? พิกัด : บึงไมตรีจิต คลองสามวา กรุงเทพมหานคร